
รู้หรือไม่ ประเภทรถบรรทุก 9 ประเภท ที่ถูกต้องตามกฎหมายมีอะไรบ้าง
เมื่อพูดถึงรถบรรทุกหลายๆท่านอาจไม่ทราบว่า รถบรรทุกที่ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกในประเทศไทยนั้นมีอะไรบ้าง หลายๆท่านอาจเห็นได้ทั่วไปบนท้องถนนหรือเคยใช้งานรถประเภทนั้น เช่น รถพ่วง รถบรรทุก รถเทรลเลอร์ และอื่นๆ แต่ประเภทที่ถูกต้องตามกฏหมายตามกฎกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ.2524) ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 นั้นมีอยู่ 9 ประเภท จะมีรถอะไรบ้าง ทาง LCS จะมาบอกประเภทของรถบรรทุก 9 ประเภทว่ามีอะไรบ้างดังต่อไปนี้
ทำไมรถบรรทุกตามกฏหมายในประเทศไทยถึงมีหลายประเภท
ในประเทศไทยมีอุตสาหกรรมที่ต้องใช้รถบรรทุกเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจอยู่หลายอุตสาหกรรม แต่ละอุตสาหกรรมก็ใช้ประเภทรถบรรทุกที่แตกต่างกันออกไป เนื่องจากการใช้รถบรรทุกให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมนั้นๆเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะหากใช้รถบรรทุกผิดประเภทอาจส่งผลต่อสินค้าที่บรรทุกไดนั่นเอง ดังนั้นทางกฏหมายขนส่งจึงได้มีข้อกำหนดประเภท 9 รถบรรทุกตามกฏหมายที่เหมาะสมตามอุตสาหกรรมในประเทศไทยนั่นเอง
ประเภทที่ 1 : รถกระบะบรรทุก
“รถกระบะบรรทุก” เรียกได้ว่าเป็นน้องเล็กสุดสำหรับการใช้บรรทุกสินค้าต่างๆที่ถูกต้องตามกฏมาย สามารถบรรทุกสินค้าในอุตสาหกรรมได้หลายประเภท เช่น ข้าว หิน ดิน ทราย หรือสินค้าทางการเกษตรต่างๆ ซึ่งเป็นการบรรทุกในอุตสาหกรรมขนาดเล็ก
ประเภทที่ 2 : รถตู้บรรทุก
“รถตู้บรรทุก” เป็นรถบรรทุกที่ลักษณะที่มีขนาดใหญ่กว่ารถกระบะขึ้นมาอีกระดับ ที่จะมีลักษณะเป็นตู้ทึบ และมีหลังคาและตัวถังที่บรรทุกอยู่ระหว่างผู้ขับ และเป็นผู้ขับแบบตอนเดียว เน้นใช้ในการขนส่งหรือบรรทุกสินค้าแบบตู้แห้ง หรือ ตู้แช่เย็น เช่น สินค้าที่เป็นชนิดอบแห้ง เนื้อสัตว์แช่แข็ง หรือสินค้าที่ควบคุมอุณหภูมิระหว่างจัดส่ง
ประเภทที่ 3 : รถบรรทุกของเหลว
“รถบรรทุกของเหลว” เป็นรถที่ใช้บรรทุกของเหลวต่างๆ ที่บรรทุกของเหลวตามความเหมาะสมและมีระบบความปลอดภัยสูง
ประเภทที่ 4 : รถบรรทุกวัสดุอันตราย
“รถบรรทุกวัสดุอันตราย” เป็นรถบรรทุกที่ใช้ในการบรรทุกของเหลวเหมือนกับรถบรรทุกของเหลว แต่จะมีความอันตรายกว่า ซึ่งจะเป็นลักษณะของแทงก์ที่มีความหนาแน่นสูงเพื่อป้องกันการรั่วไหลหรือซึมของสิ่งที่บรรทุก เช่น น้ำมัน แก๊ส สารเคมี หรือสิ่งของที่ก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดอย่างรุนแรงทันทีทันใด
ประเภทที่ 5 : รถบรรทุกเฉพาะกิจ
“รถบรรทุกเฉพาะกิจ” เป็นรถบรรทุกที่ถูกออกแบบให้มีลักษณะที่แตกต่างที่มีไว้ใช้บรรทุกสิ่งต่างๆแบบเฉพาะกิจและมีความพิเศษ เช่น รถบรรทุก เครื่องดื่ม รถผสมปูนซีเมนต์ รถขยะมูลฝอย รถราดยาง หรือ รถเครื่องทุ่นแรงต่างๆ
ประเภทที่ 6 : รถพ่วง
“รถพ่วง” เป็นรถที่ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง ต้องอาศัยจากหัวรถในการลากจูงเพื่อขับเคลื่อน และท้ายรถจะถูกเรียกว่ารถพ่วงที่มีเพลาในตัวเอง และต่อพ่วงด้วยอุปกรณ์ลากจูงซึ่งถูกนำไปใช้บรรทุกในอุตสหากรรมสินค้าที่หลากหลาย เช่น บรรทุกดิน บรรทุกอ้อย บรรทุกมันสําปะหลัง และสินค้าทางการเกษตรต่างๆ
ประเภทที่ 7 : รถกึ่งพ่วง
“รถกึ่งพ่วง” เป็นรถบรรทุกสินค้าที่ไม่มีแรงขับเคลื่อนในตัวเอง และไม่สามารถแยกจากกันได้ระหว่างส่วนหัวเทรลเลอร์และส่วนท้ายที่เป็นรถพ่วงต้องรับน้ำหนักร่วมกัน
ประเภทที่ 8 : รถกึ่งพ่วงบรรทุกวัสดุยาว
“รถกึ่งพ่วงบรรทุกวัสดุยาว” เป็นรถบรรทุกสินค้าที่เป็นโครงวัสดุโลหะที่ไว้บรรจุและรองรับสินค้าได้มากที่สุดในบรรดาประเภทรถบรรทุกตามกฎหมายทั้งหมด
ประเภทที่ 9 : รถลากจูง
“รถลากจูง” เป็นรถที่ทำหน้าที่ในการลากจูงรถประเภทอื่น ในกรณีรถคันอื่นมีปัญหาจนไม่สามารถขับเคลื่อนใช้งานได้หรือชำรุด หรือใช้ในการลากจูง รถพ่วง รถกึ่งพ่วง ที่ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองได้ เป็นรถที่มีหน้าที่ช่วยเหลือรถคันอื่นๆ
จากข้อมูลของรถบรรทุกในประเทศไทยนั้นหลายๆท่านอาจจะเคยเห็นอยู่บ่อยครั้ง แต่อาจไม่ทราบว่ารถบรรทุกชนิดไหนบ้างที่ถูกต้องตามกฏหมายตามกฎกระทรวง ซึ่งในปัจจุบันการใช้รถบรรทุกแบบผิดประเภทและแตกต่างจากที่กฏหมายกำหนดนั้นยังมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งอาจเสี่ยงในการถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย ซึ่งทาง LCS หวังว่าข้อมูลในส่วนนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้รถบรรทุกทุกท่านเพื่อให้ผู้ใช้รถบรรทุกได้ใช้รถอย่างถูกประเภทและถูกต้องตามกฏหมาย