รู้หรือไม่ “น้ำมันไฮดรอลิค”สำคัญกับระบบไฮดรอลิคอย่างไร ?

เมื่อพูดถึงอุตสาหกรรมรถบรรทุก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะไม่พูดถึงระบบไฮดรอลิค เพราะ เป็นระบบที่ต้องใช้การส่งถ่ายพลังงานในรูปของอัตราการไหลและความดันเปลี่ยนเป็นพลังงานกล โดยผ่านตัวกระทำ เช่น กระบอกสูบไฮดรอลิค มอเตอร์ไฮดรอลิค ปั๊มไฮดรอลิค ซึ่งจะขาดตัวส่งถ่ายพลังงาน อย่าง น้ำมันไฮดรอลิค (Hydraulic Oil) ไปไม่ได้เลย ดังนั้น ทาง LCS จะมาแนะนำและพาทุกท่านทำความรู้จักกับน้ำมันไฮดรอลิคว่า คืออะไร มีส่วนประกอบอะไรบ้างและคุณสมบัติของน้ำมันไฮดรอลิคนั้นมีส่วนสำคัญต่อระบบไฮดรอลิคในอุตสาหกรรมรถบรรทุกแค่ไหน

น้ำมันไฮดรอลิคคืออะไร ?

น้ำมันไฮดรอลิค (Hydraulic Oil)  เป็นของเหลวที่มีความหนาแน่นคงตัวและถูกนำไปใช้ในกระบวนการขับเคลื่อนต่างๆ ที่เป็นรูปแบบระบบการขับเคลื่อนแบบการไหลของน้ำมัน และความดัน ให้เปลี่ยนเป็นพลังกล โดยผ่านระบบไฮดรอลิค เช่น กระบอกสูบ มอเตอร์ไฮดรอลิก ปั้ม วาล์ว และอุปกรณ์ไฮดรอลิคทุกชนิด ในสายงายอุตสาหกรรมต่างๆที่นิยมใช้อุปกรณ์หรือเครื่องจักรที่ต้องใช้ น้ำมันไฮดรอลิค ในการส่งถ่ายพลังงาน

ส่วนประกอบของน้ำมันไฮดรอลิค

• น้ำ : เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่ช่วยในการหล่อเย็นและต้านทานไม่ให้น้ำมันไฮดรอลิคติดไฟง่าย 
• น้ำมันปิโตรเลียม : เป็นส่วนประกอบที่มีคุณสมบัติในการหล่อลื่นได้ดีเยี่ยมและต้านทานการสึกหรอของโลหะ
• ของเหลวอื่นๆ (สังเคราะห์) : เช่น สารประกอบช่วยป้องกันการเกิดฟอง การเกิดสนิม การผุกร่อน และช่วยในการหล่อลื่น

คุณสมบัติของ น้ำมันไฮดรอลิค

• ทนอุณหภูมิความร้อนได้เป็นอย่างดี
• ช่วยป้องกันการกัดกร่อนและลดการสึกหรอของอุปกรณ์และเครื่องยนต์
• ไม่ทำให้เกิดฟอง
• หล่อลื่นได้ดีและไม่ทำปฏิกิริยากับ ยาง ซีล ประเก็น
• แยกตัวจากน้ำได้ดี
• ไม่จับตัวเป็นก้อนหรือยางเหนียว

เลือกน้ำมันไฮดรอลิคต้องดูจากอะไรบ้าง

      1.ประเภทของน้ำมันพื้นฐาน (Base Oil)

น้ำมันไฮดรอลิคนั้นจะประกอบไปด้วยส่วนผสมหลายชนิด รวมไปถึงน้ำมันพื้นฐาน (ฺBase Oil) เป็นสารตั้งต้นที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตน้ำมันไฮดรอลิค ซึ่งค่าน้ำมันไฮดรอลิคที่มีความบริสุทธิ์สูงสามารถแบ่งได้ 5 ประเภทตามมาตรฐาน API คือ Group I , Group II , Group III , Group IV , Group V ซึ่งถ้าตัวเลขยิ่งสูงค่าความบริสุทธิ์ขอน้ำมันไฮดรอลิคก็ยิ่งมากขึ้น รวมไปถึงประสิทธิภาพของน้ำมันไฮดรอลิคก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เช่น ความสามารถในการทนต่อสภาวะในการทำงานในที่ที่มีความร้อนสูง เช่น โรงไฟฟ้า,โรงงานผลิตเชื้อเพลิง และ โรงงานอุตสาหกรรม ต่างๆ หรือ ทนต่อสภาวะที่มีอุณหภูมิต่ำมากๆได้

      2. สารปรุงแต่งน้ำมันไฮดรอลิค (Additive Oil)

การเลือกซื้อน้ำมันไฮดรอลิค ควรพิจารณาถึงการใช้งานที่จะนำไปใช้กับเครื่องจักร จึงจะสามารถพิจารณาสารปรุงแต่งได้ว่าควรเลือกใช้น้ำมันไฮดรอลิคที่มีสารปรุงแต่งประเภทไหนและควรใช้ให้ถูกประเภท ซึ่งประเภทของสารปรุงแต่งน้ำมันไฮดรอลิคมีดังนี้

• Anti-Wear (AW) : เป็นสารปรุงแต่งที่มีส่วนช่วยป้องกันการสึกหรอและเสียดสีของเครื่องจักรไฮดรอลิคในระหว่างทำงาน
• Anti – Foaming :  เป็นสารปรุงแต่งที่มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดฟองในน้ำมันไฮดรอลิค
• Anti Oxidation :  เป็นสารปรุงแต่งที่มีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้ออกซิเจนทำปฏิกิริยากับเนื้อน้ำมัน และป้องกันการเสื่อมสภาพของน้ำมัน
• ป้องกันสนิม : เป็นสารปรุงแต่งที่มีส่วนช่วยในการเกิดสนิม ใช้เคลือบผิวของโลหะ
• Pour Point Depressant : เป็นสารปรุงแต่งที่มีส่วนช่วยในการป้องกันไม่ให้น้ำมันไม่แข็งตัวในกรณีอยู่ในอุณหภูมิต่ำ
• Friction Modifier : เป็นสารปรุงแต่งที่มีส่วนช่วยเกาะผิวโลหะเพื่อลดการเสียดทาน 
• Viscosity Index Improver :  เป็นสารปรุงแต่งที่มีส่วนช่วยลดการเปลี่ยนแปลงความหนืดของน้ำมันหล่อลื่นเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยน
• Cold Flow :  เป็นสารปรุงแต่งที่มีส่วนช่วยให้สามารถใช้งานได้ในสภาวะหนาวจัด 
  
  

      3.ความหนืดของน้ำมันไฮดรอลิก (Viscosity of Hydraulic Oil)

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของน้ำมันไฮดรอลิคที่มีผลต่อระบบไฮดรอลิคนั้นคือความหนืดของน้ำมันไฮดรอลิค คุณสมบัติของเหลวที่เป็นน้ำมันจะมีผลต่อการทำงานที่แตกต่างกันไปของอุปกรณ์หรืออะไหล่ ดังนั้นการใช้ความหนืดของน้ำมันไฮดรอลิคจะน้อยหรือมากขึ้นอยู่กับปัจจัยและรูปแบบของผู้ใช้งานระบบไฮดรอลิค ว่านำไปใช้ในรูปแบบใด หากความหนืดมีน้อยเกินไปจะทำให้การเสียดสีของเครื่องจักรสัมผัสกันได้ง่ายขึ้นทำให้เครื่องจักรหรือระบบไฮดรอลิคเกิดการสึกหรอ หรือ ความหนืดมีมากเกินไปอาจทำให้การทำงานของระบบไฮดรอลิคมีความหนืดจนเกินไป จนทำให้เครื่องจักรเคลื่อนไหวได้ช้าเป็นการลดประสิทธิภาพการทำงานของระบบไฮดรอลิคได้

      4.จุดวาบไฟของน้ำมัน

คือจุดอุณหภูมิต่ำสุด ที่ทำให้ของเหลวกลายเป็นไอที่เพียงพอต่อการลุกไหม้ เมื่ออยู่ในสถานที่ที่สามารถจุดติดไฟได้ ซึ่งโดยทั่วไปจุดวาบไฟจะอยู่ที่ 225 องศาเซลเซียส หรือ 440 องศาฟาเรนไฮต์ ดังนั้นควรเลือกน้ำมันไฮดรอลิคที่มีคุณสมบัติทนต่อความร้อนได้ดี

ชนิดของน้ำมันไฮดรอลิค

น้ำมันไฮดรอลิค มีอยู่ 2 ประเภทหลักๆ คือ น้ำมันปิโตรเลียม กับ น้ำมันทนไฟ ซึ่งคุณสมัติในการใช้น้ำมันไฮดรอลิคของทั้ง 2 ประเภทจะถูกนำไปใช้ในระบบของเครื่องจักรที่แตกต่างกันไป  เช่น อุณหภมิ ความร้อน ความชื้น และแรงดัน

 1.น้ำมันปิโตรเลียม

น้ำมันปิโตรเลียม เป็นชนิดของน้ำมันไฮดรอลิคที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในระบบอุตสาหกรรมต่างๆ  ซึ่งในด้านของคุณสมบัติของน้ำมันไฮดรอลิคที่เป็นน้ำมันปิโตรเลียมนั้นมีคุณสมบัติต้านทานการกัดกร่อน มีอัตราการหล่อลื่นที่ดี ละมีความหนืดสูง ต้านทานการเกิดสนิม ซึ่งนิยมนำมาใช้อุตสาหกรรมที่เป็นระบบไฮดรอลิคแบบทั่วไป ที่ไม่มีความร้อนและอุณหภูมิสูงที่อาจสี่ยงต่อการติดไฟได้ง่าย เนื่องจากน้ำมันปิโตรเลียม มีคุณสมบัติที่ทนความร้อนได้ไม่ดีนัก

 2.น้ำมันทนไฟ

       น้ำมันทนไฟ เป็นน้ำมันไฮดรอลิคอีกชนิดที่มีคุณสมบัติ ทนความร้อนได้ดีกว่าน้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งนิยมใช้ในอุตสาหกรรมที่มีเครื่องจักรที่ทำงานหนัก ในสภาวะที่อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำมันไฮดรอลิครั่วซึมอันส่งผลอาจทำให้เกิดการจุดติดของประกายไฟและเกิดการระเบิด ซึ่งการใช้น้ำมันไฮดรอลิคทนไฟจะลดอัตราความเสี่ยงจากการเกิดไฟไหม้

วิธีเปลี่ยนถ่ายน้ำมันไฮดรอลิคที่ถูกต้องทำอย่างไร

1. เตรียมรถหรือเครื่องจักร ที่ต้องการเปลี่ยนน้ำมันไฮดรอลิคให้พร้อมและดับเครื่องยนต์เพื่อให้น้ำมันไฮดรอลิคเย็นตัวลงประมาณ 10 นาที เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายจากน้ำมันไฮดรอลิคที่ร้อนเกินไป
2. ทำการหาจุดถ่ายน้ำมันไฮดรอลิค ในส่วนของตำแหน่งที่ถ่ายน้ำมันไฮดรอลิคจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเครื่องจักรหรือรถที่ใช้น้ำมันไฮดรอลิค
3. เตรียมภาชนะที่ใช้ในการรองน้ำมันไฮดรอลิค ไว้ใต้จุดที่ต้องการถ่ายน้ำมันไฮดรอลิค 
4. ทำการไขน็อตตรงจุดถ่ายน้ำมันไฮดรอลิค เพื่อทำการระบายน้ำมันไฮดรอลิคเก่าออกมา
5. ระบายน้ำมันไฮดรอลิคเก่าออกให้หมด ให้ทำการไขน็อตเพื่อปิดรูถ่ายน้ำมันเครื่องให้แน่น เพื่อเตรียมตัวในการเปลี่ยนน้ำมันไฮดรอลิคใหม่เข้าไป
6. ก่อนจะทำการเติมน้ำมันไฮดรอลิค ผู้ใช้ควรตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ว่าชนิดและประเภทของน้ำมันไฮดรอลิคที่จะใช้นั้นถูกต้องตามคู่มือการใช้งานหรือไม่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน
7. หลังจากทำการตรวจเช็คน้ำมันไฮดรอลิคแล้ว ทำการเปิดฝาถังไฮดรอลิค เพื่อทำการเติมน้ำมันไฮดรอลิคที่ช่องเติมน้ำมันไฮดรอลิคให้ได้ระดับตามคู่มือการใช้งาน   
8. ทำการตรวจสอบระดับของน้ำมันไฮดรอลิค และทำการปิดฝาถังน้ำมันไฮดรอลิคให้แน่น ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์หรือเครื่องจักร เพื่อทำการทดสอบการทำงานและเช็คระดับของน้ำมันไฮดรอลิคว่าคงที่หรือไม่ เป็นอันเสร็จขั้นตอน  

สนใจซื้อน้ำมันไฮดรอลิคและดูผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องรถบรรทุกอื่นๆ กับ LCS ทำอย่างไร?

สำหรับทุกท่านผู้ใช้ รถบรรทุก รถพ่วง รถดั้มพ์ ที่กำลังมองหาสินค้า  น้ำมันไฮดรอลิค ที่มีคุณภาพ ที่จะนำมาใช้กับรถคู่ใจของท่าน สามารถเข้ามาสั่งซื้อสินค้าได้แล้วที่  https://lcs-online.com/  แหล่งรวมอะไหล่รถบรรทุก รถพ่วง รถดั้มพ์  ที่มีสินค้ามากที่สุดในประเทศไทย พร้อมฟังก์ชั่นอีกมากมายและรายการสินค้าอะไหล่ รถบรรทุก รถพ่วง รถดั้มพ์ เช่น กะทะล้อ ดัมพ์ ผ้าเบรค ลูกปืน น็อตล้อ และ อื่นๆ  ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพกว่า 6,000 รายการ หากสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถโทรติดต่อได้ที่เบอร์ 02-516-1546 หรือ LINE: @LCSGROUP

 น้ำมันไฮดรอลิคเป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถบรรทุก รถพ่วง รถเทรลเลอร์ ต้องทำความเข้าใจและเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสนใจอยู่อย่างสม่ำเสมอ นอกจากเลือกใช้น้ำมันไฮดรอลิคที่มีคุณภาพแล้ว การหมั่นตรวจเช็คระบบไฮดรอลิคก็เป็นสิ่งสำคัญ การเลือกใช้น้ำมันไฮดรอลิคที่ดีและถูกประเภทก็เป็นการช่วยดูแล  ยืดอายุการใช้งานของระบบไฮดรอลิค ไม่ให้สึกหรอได้ง่าย 

บทความที่เกี่ยวข้อง